Mercedes – AMG GT Black Series

ต้องสีนี้!!! Mercedes-AMG GT Black Series ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยเครื่องยนต์ V8 Bi-Turbo 4.0 ลิตร 730 แรงม้า แรงบิด 800 นิวตันเมตร

สัมผัสคันจริงได้ที่!!! Target Car Center – Imported Cars (ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย Super Car หายาก!!! จากทุกค่ายทั่วโลก)

เป็นที่ทราบกันดีว่า Mercedes-AMG ได้ยุติการผลิตไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งรุ่นสุดท้ายที่ออกจากโรงงานและเป็นที่ต้องการกันทั่วโลก นั่นคือ Mercedes-AMG GT Black Series ที่เรียกได้ว่าเป็นรุ่นพิเศษที่มาปิดท้ายได้อย่างสวยงาม ก่อนที่ทายาทจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปีนี้

Black Series เป็นชื่อของซีรีย์เรือธงในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Mercedes-AMG และใน Mercedes-AMG GT Black Series ย่อมพิเศษกว่ารุ่นปกติ ด้วยเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ขนาด 4.0 ลิตร ที่มีการอัปเกรดเพิ่มเติมหลายอย่าง ที่รวมถึงเพลาข้อเหวี่ยง ซึ่งช่วยปรับปรุงแรงบิดให้มาในรอบที่ต่ำ ที่ส่งผลโดยตรงต่อเสียงท่อของ GT Black Series ให้น่ากลัวยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังขยายเทอร์โบชาร์จให้มีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับ GT R Pro อีกด้วย

ด้วยการอัปเกรดทั้งหมด ส่งผลให้ Mercedes-AMG GT Black Series มีกำลังสูงสุดที่ 730 แรงม้า ที่ 6,700 – 6,900 รอบต่อนาทีและแรงบิด 800 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 2,000 – 6,000 รอบต่อนาที มอบอัตราเร่งความเร็วจาก 0-96 กม./ชม. ใน 3.1 วินาที ก่อนจะถึง 200 กม./ชม. ในเวลาไม่เกิน 9.0 วินาทีและทำความเร็วสูงสุดที่ 325 กม./ชม.

กำลังทั้งหมดถูกส่งไปยังล้อหลังผ่านอุโมงเกียร์แบบคาร์บอนไฟเบอร์และเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ ที่ได้รับการปรับแต่งให้เปลี่ยนเกียร์เร็วขึ้นและปรับปรุงเรื่องการระบายความร้อน หากต้องวิ่งในสนามเป็นเวลานานๆ

Mercedes-AMG GT Black Series ไม่ได้มีดีแค่เพียงแค่ตัวเลขของพละกำลังเท่านั้น แต่ยังเคยขึ้นแท่นเป็นรถยนต์ Prodution Car ที่ทำเวลาต่อรอบที่สนาม Nürburgring ด้วยเวลา 6:43.616 นาที สำหรับสนามความยาว 20.6 กม.

การออกแบบของ Mercedes-AMG GT Black Series นั้น แทบจะถูกออกแบบใหม่เกือบทั้งหมด ด้วยองค์ประกอบด้านหลักอากาศพลศาสตร์มากมาย โดยที่ด้านหน้าจะมีดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่และกระจังหน้าขนาดใหญ่เช่นกัน ส่วนที่ด้านหลังจะพบกับสปอยเลอร์หลัง 2 ชั้นเเละปิดท้ายด้วยท่อไอเสีย 4 ท่อพร้อมดิฟฟิวเซอร์หลังที่ปรับปรุงใหม่

หากถ้าสังเกตดีๆจะพบว่า Mercedes-AMG GT Black Series แทบจะเหมือนการยกดีไซน์การออกแบบมาจากรถแข่งอย่าง AMG GT3 รุ่นล่าสุด ไม่ว่าจะเป็นฝากระโปรงหน้าที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ที่จะช่วยให้เครื่องยนต์เย็นขึ้นและเพิ่มแรงกดไปพร้อมๆกัน

ด้านระบบช่วงล่างก็มีการปรับแต่งทั้งที่ด้านหน้าและด้านหลังแบบใหม่ ที่ลดการสั่นสะเทือนขณะเข้าโค้ง ขณะที่ล้อนั้นเป็นล้อน้ำหนักเบาขนาด 19 นิ้วที่ด้านหน้าและ 20 นิ้วที่ด้านหลัง รัดด้วยยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 R ขนาด 285/35R19 ที่ด้านหน้าและ 335/30R20 ที่ด้านหลัง ก่อนจะปิดท้ายด้วยระบบเบรกคาร์บอนเซรามิกที่ถูกติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

ยิ่งไปกว่านั้นวิศวกรของ AMG ยังได้ติดตั้งระบบควบคุมการยึดเกาะถนนใหม่ (Traction Control) ที่พร้อมด้วยการปรับระดับถึง 9 ระดับ โดยในระดับ 1 จะสำหรับสภาวะพื้นถนนเปียกและระดับ 9 จะสำหรับให้ท้ายรถปัดได้อย่างอิสระ ซึ่งการปรับในส่วนนี้สามารถควบคุมได้บนปุ่มที่คอนโซลกลางได้ตลอดเวลา

แน่นอนว่าชื่อ Black Series จะเป็นรุ่นสุดท้ายของตระกูล ซึ่งหมายความว่า AMG GT Black Series คันนี้เป็นรุ่นสุดท้ายก่อนจะใช้แพลตฟอร์มใหม่และหากใครที่ต้องการเป็นเจ้าของรถแข่งสไตล์ GT3 ที่สามารถวิ่งบนถนนสาธารณะได้อย่างถูกกฏหมายอย่างเจ้า Mercedes-AMG GT Black Series ก็สามารถชมคันจริงได้เเล้วที่โชว์รูม Target Car Center (Thailand) และที่สำคัญไปกว่านั้ ผู้ที่จะได้ครอบครอง Mercedes-AMG GT Black Series มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น และคันนี้เป็นคันเดียวที่พร้อมเป็นเจ้าของแบบไม่ต้องรอในแอฟชั่นที่เรียกได้ว่าแน่นสุดในประเทศ!!!!