Bentley Flying Spur s
CONDITION: NEW | PRICE: – BAHT
DETAILS
Bentley Flying Spur S Hybrid เมื่อความหรูหราและสมรรถนะมาบรรจบกัน!!!
#พร้อมส่งมอบ
Bentley Flying Spur S Hybrid เป็นรถยนต์สุดหรูที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้ ด้วยการออกแบบที่ที่ดูสง่างาม การตกแต่งภายในเหนือระดับ สมรรถนะที่ทรงพลังและความสะดวกสบายในการขับขี่
Flying Spur S Hybrid ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับรถยนต์ซีดานหรู ในขณะที่ทุกคนหันไปสนใจรถเอสยูวี ซึ่งหากใครได้ลองสัมผัสเจ้าคันนี้ จะพบว่าไม่มีรถยนต์รุ่นไหนที่สามารถมาทดแทนเจ้าคันนี้ได้
Flying Spur S Hybrid โดดเด่นด้วยชุดตกแต่งสีดำรอบคัน ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้า ช่องไอดี คิ้วกระจกและท่อไอเสีย จะคงเหลือไว้เพียงป้ายและตัวอักษรของ Bentley เท่านั้น
ที่สำคัญกว่านั้น Flying Spur S Hybrid ยังโดดเด่นกว่ารุ่นอื่นๆด้วยตัวเลือกล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้ว พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดงและตรา S ที่ซุ้มล้อหน้า สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ไฟหน้าและไฟท้ายจะได้รับกรอบสีดำเพื่อให้ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น
ภายในห้องโดยสารจะใช้หนังที่ทำจากมือที่ถูกประดับบนพวงมาลัย หัวเกียร์และเบาะที่นั่ง ซึ่งในส่วนของเบาะนั่งจะถูกตกแต่งด้วยควิลท์เสริมและปักตราสัญลักษณ์ S ส่วนไฮไลท์อื่นๆที่โดดเด่นไม่แพ้กัน ได้แก่ กราฟิกของแผงมาตรวัดดิจิตอลที่ยกมาจาก Continental GT Speed, ตราสัญลักษณ์ S บนคอนโซลหน้าและแผ่นธรณีประตูแบบเรืองแสง
Flying Spur S Hybrid มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบคู่ ขนาด 2.9 ลิตร ที่ให้กำลังรวม 544 แรงม้าและ แรงบิด 750 นิวตันเมตร มอบอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 4.3 วินาทีและทำความเร็วสูงสุดที่ 285 กม./ชม.
มอเตอร์ไฟฟ้าเพียงตัวเดียวที่เป็นดาวเด่นของรุ่นนี้จะถูกตั้งอยู่ระหว่างชุดเกียร์และเครื่องยนต์และจะทำงานบนชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 14.1 kWh ซึ่งการวางมอเตอร์ไฟฟ้าแบบนี้จะช่วยให้กำลัง 134 แรงม้าและแรงบิด 400 นิวตันเมตรและสามารถชาร์จถึง 100% ในเวลาเพียงสองชั่วโมงครึ่ง ด้วยทั้งหมดที่กล่าวมาทำให้ Flying Spur S Hybrid มีระยะการขับขี่ทั้งหมดต่อน้ำมันหนึ่งถังที่ 700 กม. และจะสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวได้สูงถึง 40 กม. ตามมาตราฐานการทดสอบ WLTP
Flying Spur S Hybrid มีโหมดการขับเคลื่อนเฉพาะ 3 โหมดสำหรับระบบส่งกำลังใหม่ได้แก่ : EV Drive, Hybrid และ Hold โดยในโหมด EV Drive จะเป็นค่าตัวเลือกเริ่มต้น ที่หากแบตเตอรี่ถูกชาร์จเต็ม ในโหมดนี้จะช่วยให้รถสามารถวิ่งได้อย่างเงียบๆด้วยไฟฟ้า ส่วนโหมด Hybrid ตามชื่อของมันคือการผสมผสานเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าด้วยกันเพื่อมอบระยะสูงสุด ขณะที่โหมด Hold นั้นจะเก็บพลังงานแบตเตอรี่ไว้ใช้ในภายหลัง
สำหรับใครที่กำลังมองหารถยนต์ซีดานสุดหรูอย่างเจ้า Bentley Flying Spur S Hybrid ก็สามารถติดต่อได้ที่่โชว์รูมTarget Car Center – Imported Cars ที่ได้นำเข้ามาให้เป็นเจ้าของเป็นที่เรียบร้อย