Audi RS 3 Sportback
CONDITION: NEW | PRICE: – BAHT
DETAILS
Audi RS 3 Sportback คำเดียวคือแรงงง!!หลังติดเบาะ ด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 5 สูบ 2.5 ลิตร 400 แรงม้า!!!
Audi RS 3 Sportback เป็นรถยนต์แฮทช์แบ็คสมรรถนะสูงสุด ที่มาพร้อมการออกแบบที่ดุดันทั้งภายนอกและภายใน ทั้งยังมีเทคโนโลยี RS Torque Splitter เพื่อเพิ่มไดนามิกในการขับขี่
เริ่มจากภายนอก RS 3 Sportback มาพร้อมการออกแบบด้านหน้าที่มีช่องรับอากาศขนาดใหญ่และกระจังหน้าแบบ Single Frame ที่มีตาข่ายรังผึ้งแบบสปอร์ต พร้อมไฮไลท์อีกอย่างที่หนีไม่พ้นคือกราฟิกไฟหน้า LED ลายธงหมากรุกที่มีเฉพาะ RS 3 เท่านั้นและซุ้มล้อหน้าที่กว้างขึ้นพร้อมช่องระบายอากาศแบบสปอร์ต
RS 3 Sportback ยังมาพร้อมล้อขนาด 19 นิ้ว ที่มีลายที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับ RS 3 และเป็นครั้งแรกที่ Audi ได้สวมยาง Pirelli P Zero Trofeo R มาให้ ส่วนดีไซน์ด้านหลังก็น่าจะเป็นรถยนต์แฮทช์แบ็คที่มีส่วนท้ายที่ดุดันที่สุดในโลกด้วยช่องตกแต่งขนาดใหญ่, ไฟท้ายที่ดูน่ากลัวและดิฟฟิวเซอร์หลังที่หุ้มปลายท่อไอเสียทรงรีอันเป็นเอกลักษณ์ของ RS sport
การออกแบบภายในนั้นได้เน้นบรรยากาศให้เหมาะสมกับลักษณะสมรรถนะของรถ ด้วยพวงมาลัยท้ายตัดแบบสปอร์ตเฉพาะ RS sport ที่หุ้มด้วยหนังเเละอัลคันทาร่าพร้อมแถบสีแดงที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา, แป้น Paddle Shift, คันเกียร์ที่ทำจากวัสดุพิเศษและเบาะนั่งแบบ RS sport พร้อมหนัง Nappa
ยิ่งไปกว่านั้น RS 3 Sportback ยังมีมาตราวัดดิจิตอล Audi Virtual cockpit plus ขนาด 12.3 นิ้วแบบเฉพาะของ RS ที่แสดงแรง G, รอบและอัตราเร่ง รวมทั้งไฟแสดงจังหวะการเปลี่ยนที่จะกะพริบบนจอ HUD บนกระจกหน้า ทั้งยังมีหน้าจอสัมผัสระบบสาระบันเทิงกลางขนาด 10.1 นิ้วที่มีฟังก์ชัน RS Monitor ที่แสดงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เช่น อุณหภูมิน้ำหล่อเย็น เครื่องยนต์และน้ำมันเกียร์ ตลอดจนแรงดันลมยาง
ใต้ฝากระโปรงเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ TFSI 5 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร ที่ให้กำลัง 400 แรงม้า ที่ 5,600 – 7,000 รอบต่อนาทีเเละแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 500 นิวตันเมตร ที่ 2,250 – 5,600 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ S-tronic 7 จังหวะ ส่งกำลังไปยังทั้ง 4 ล้อ มอบอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที ก่อนจะทำความเร็วสูงสุดที่ถูกจำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ 250 กม./ชม.
จุดเด่นที่สำคัญๆของรุ่นนี้คือการติดตั้งระบบ RS Torque Splitter ซึ่งระบบนี้จะสามารถกระจายแรงบิดไปยังทั้ง 4 ล้อได้อย่างอิสระ ซึ่งจะเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่เเละทำให้ RS 3 Sportback ออกจากโค้งได้เร็วขึ้น ทั้งยังมีโหมดดริฟต์อย่าง “RS Torque Rear” ที่ในโหมดนี้จะถูกสงวนไว้สำหรับสนามแข่งด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
ในตอนนี้พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า Audi RS 3 Sportback เป็นหนึ่งในรถยนต์แฮทช์แบ็คที่มีสมรรถนะสูงที่สุดรุ่นหนึ่งและโดดเด่นอย่างมากบนท้องถนน ที่สำคัญนั้นโชว์รูม Target Car Center ได้นำมาให้สัมผัสกันเป็นที่เรียบร้อยแบบรับรถได้ทันที พร้อมด้วยออฟชั่นที่ปฎิเสธได้ยากเหนือใคร ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งภายนอกและภายในแบบคาร์บอนไฟเบอร์ ระบบเครื่องเสียง Bang & Olufsen และระบบเบรกคาร์บอนเซรามิกที่มาพร้อมจานเบรกด้านหน้าขนาด 380 มม. พร้อมคาลิปเปอร์เบรกแบบ 6 ลูกสูบ ซึ่งจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้อีก 10 กก. ที่ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเป็นออฟชั่นเสริมแบบจัดเต็มทั้งสิ้น